ที่ว่าการมหานครโตเกียว เมืองหลวงประเทศญี่ปุ่น ออกคำเตือนประชาชนหลังพบการระบาดของโรคแบคทีเรียกินเนื้อ ที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย “สเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ” สูงถึง 500 กว่าราย ส่งผลให้ใครที่กำลังมีแผนจะไปท่องเที่ยวญี่ปุ่น อาจเกิดความลังเลใจ เพราะกลัวจะติดโรค วันนี้เราจะมาพูดถึงสาเหตุของโรคนี้กันครับ
โรคแบคทีเรียกินเนื้อ หรือโรคเนื้อเน่า(Necrotizing Fasciitis) เป็นโรคติดเชื้อแบคทีเรียอย่างรุนแรงที่ผิวหนังชั้นลึก ตั้งแต่ชั้นหนังกำพร้า ชั้นหนังแท้ ชั้นไขมันใต้ผิวหนัง ไปจนถึงชั้นเนื้อเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการเน่าตายของเนื้อเยื่อบริเวณที่เกิดการติดเชื้อ และอาจลุกลามไปยังส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย มักเกิดจากการรักษาบาดแผลไม่ดีทำให้เชื้อแบคทีเรียสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งทางผิวหนังหรือกระแสเลือด
หากเกิดในผู้ที่มีร่างกายแข็งแรง ภูมิคุ้มกันร่างกายปกติ จะเป็นการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจทั่วไป ส่วนที่ประเทศญี่ปุ่นมีการติดเชื้อดังกล่าวสูงนั้น ส่วนหนึ่งเกิดจากญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาดมาก เมื่อเกิดการติดเชื้อขึ้นจึงแจ้งเตือนประชาชนให้ระวังตัว อีกทั้งส่วนหนึ่งประเทศเขามีจำนวนผู้สูงอายุเยอะ ทำให้ต้องระมัดระวังมากขึ้น
ทั้งนี้ นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า การติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ชนิดเอ เกิดขึ้นได้เป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องใหม่ ประเทศไทยเองก็เจอการติดเชื้อนี้อยู่เป็นระยะ อย่างไรก็ตาม จากการประสานกับสถานทูตญี่ปุ่น เบื้องต้นยังไม่ถึงกับต้องคัดกรองผู้เดินทางมาจากญี่ปุ่น และประชาชนชาวไทยสามารถเดินทางไปญี่ปุ่นได้ตามปกติ แต่ต้องป้องกันตัวเอง สวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการติดเชื้อ รวมถึงการล้างมือให้สะอาดเสมอ
ขอบคุณข้อมูลดี ๆ จาก : แหล่งที่มา