อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทุกวันนี้แทบจะกลายเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศไปแล้ว เพราะในปัจจุบันมีการแบ่ง Category ในหมวดโรงแรมเพิ่มมากขึ้น โดยมีทั้ง Budget Hotel, Hostel, Condotel, Service Apartment และ Boutique Hotel เพราะฉะนั้นในอนาคตแค่เพียงการหาทำเลที่ดี มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายให้แขกผู้เข้าพัก การอบรมพนักงานให้มีใจรักบริการ รวมถึงตกแต่งโรงแรมให้ดูเป็นเอกลักษณ์และแตกต่างจากคู่แข่งขันอาจไม่เพียงพอ
เทรนด์การเปลี่ยนแปลงในเทคโนโลยีของธุรกิจโรงแรมพบว่า ขณะนี้มีหลายๆ โรงแรมที่เริ่ม Transform สู่การเป็น Digital Hotel กันแล้ว โรงแรมในต่างประเทศนำเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ามาใช้ แต่ในประเทศไทยยังไม่มีให้เห็นมากนัก วันนี้เราจะมาพูดถึง 6 เทคโนโลยีสุดล้ำ ที่โรงแรมในไทยควรนำมาใช้
1. IOT Internet of Things ควบคุมทุกบริการผ่านเพียงแค่โทรศัพท์มือถือเพียงเครื่องเดียว เทคโนโลยี Internet of Things คือเทคโนโลยีที่ทำให้อุปกรณ์ต่าง ๆ สามารถคุยกันได้ ทำให้อุปกรณ์มีสมองขึ้นมา ช่วยให้เกิดความเป็นอัตโนมัติโดยที่มนุษย์อย่างเราไม่ต้องทำอะไรเลย ซึ่งมีอุปกรณ์ในโรงแรมที่สามารถนำ IoT มาใช้ประโยชน์ เช่น ประตู ทีวี เครื่องปรับอากาศ ตู้เย็น โทรศัพท์ อาจดูเป็นเรื่องไกลตัวสำหรับโรงแรม แต่รับรองว่าในอนาคตยังไงก็หนีไม่พ้นอย่างแน่นอน ตัวอย่างเมื่อลูกค้าเช็คอินเสร็จ พอจะเดินเข้าห้อง ประตูจะรู้ได้ทันทีว่าลูกค้าคนนั้นคือผู้เข้าพักในห้องนั้น อุปกรณ์ต่าง ๆ ก็จะทำงานพร้อมกัน แอร์เปิด ทีวีก็เปิดข้อความต้อนรับ เป็นต้น
2. ระบบ Mobile Check In และ ระบบ Keyless ระบบหลักที่คาดว่าน่าจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมโรงแรมเป็นระบบแรก ๆ เป็นการใช้ Mobile Application ของแต่ละโรงแรมในการอำนวยความสะดวกให้แขก Check In โดยลดขั้นตอนในการติดต่อพนักงานต้อนรับเพื่อขอรับกุญแจห้อง โดยระบบนี้แขกที่เข้าพักจะได้รับการแจ้งเตือนผ่าน Application ของโรงแรมเมื่อถึงวัน Check In ว่าห้องพักของตนนั้นเรียบร้อยพร้อมเข้าพักหรือไม่ หากห้องพักเรียบร้อยแล้วแขกสามารถใช้ฟังก์ชัน Mobile Check In เพื่อทำการ Check In ผ่านมือถือได้เลยและรับรหัสกุญแจสำหรับเข้าห้องพัก ซึ่งเมื่อแขกเดินทางมาถึงโรงแรมก็สามารถไปที่ห้องพักและใช้รหัสที่ได้รับการสแกนกับที่จับประตูหน้าห้องเพื่อเข้าห้องพักได้ทันที
3. ระบบ Visual Reality-VR เป็นการนำเทคโนโลยีเสมือนจริงมาใช้ในการเยี่ยมชมสถานที่พัก โดยก่อนที่แขกจะทำการจองห้องพักจะสามารถเยี่ยมชมสถานที่จริงได้แบบ 360 องศาผ่านระบบ VR ทั้งในหน้า Desktop และ Application ที่จะให้ความรู้สึกเหมือนได้อยู่ในสถานที่จริงทั้งการชมส่วนของห้องพักหรือพื้นที่รอบๆ โรงแรม และแม้แต่สถานที่ใกล้เคียง เช่น ชายหาดและแหล่งท่องเที่ยว เป็นต้น ระบบนี้เริ่มใช้แล้วในโรงแรม Hilton Waikiki Beach และมีอีกหลายโรงแรมที่เริ่มพัฒนานำ VR มาใช้กับหน้าเว็บไซต์โรงแรมของตนเอง
4. Innovative Design Concept ในอดีตการตกแต่งโรงแรมจะใช้สถาปัตยกรรมและศิลปะ มาสร้างความแปลกแตกต่างและความสวยงามให้กับสถานที่ของตนเอง แต่ในปัจจุบันเริ่มมีการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการตกแต่งโรงแรมกันมากขึ้น ตัวอย่างเช่น โรงแรมที่นำจอภาพมาติดตั้งไว้ในบางพื้นที่ของโรงแรมเป็นการตกแต่งในรูปแบบของ Interactive Wall Art Using ซึ่งหน้าจอดังกล่าวจะแสดงผลของข้อมูลต่างๆ ตามการเคลื่อนไหวของแขกผู้เข้าพักเป็นการตอบสนองให้แขกรู้สึกมีส่วนร่วมกับการเคลื่อนไหวของจอภาพดังกล่าว
5. Access & Payment กรณีนี้ขอยกตัวอย่างโรงแรมหนึ่งที่จัดทำ Wristband สายรัดข้อมือที่แขกผู้เข้าพักสามารถใช้สแกนเพื่อเข้าห้องพักได้ สามารถใช้สแกนเพื่อจ่ายเงินตาม Outlet ต่างๆ ในโรงแรมและรีสอร์ตได้ ใช้สแกนเพื่อเข้าใช้บริการในส่วนของสวนน้ำ และยังสามารถใช้ซื้อบัตรผ่านประตูสำหรับท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่าง ๆ ในเครือของโรงแรมได้อีกด้วย โดยที่แขกผู้เข้าพักไม่จำเป็นต้องพกกระเป๋าสตางค์หรือคีย์การ์ดไปด้วยตลอดเวลาในระหว่างเข้าพัก
6. Robotic หรือเทคโนโลยีหุ่นยนต์ แม้โรงแรมจะเป็นธุรกิจบริการและขาย Service Mind ที่มีแต่มนุษย์เท่านั้นที่ตอบสนองมนุษย์ด้วยกันได้ดีที่สุดเป็นหลัก แต่ปัจจุบันนี้เริ่มมีการทดลองนำหุ่นยนต์เข้ามาใช้ในอุตสาหกรรมโรงแรมด้วยเช่นกัน และมีแนวโน้มว่าจะเพิ่มจำนวนมากขึ้นในอนาคตตามที่เราเห็นข่าวกัน
ทั้งหมดนี้เป็นกรณีศึกษาที่เกิดขึ้นแล้วในธุรกิจโรงแรมระดับโลก ซึ่งคาดว่าในอนาคตก็คงจะเข้ามาสู่เมืองไทย