Hotelsup – To make hotel business possible to everyone

พูดถึงประเด็นข่าวน่าสะเทือนใจที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อน จากกรณีเครื่องบินสายการบิน Singapore Airlines เที่ยวบิน SQ321 ตกหลุมอากาศรุนแรงบนน่านฟ้าเมียนมา จากข่าวนี้อาจส่งผลกระทบให้นักท่องเที่ยวทั้งหลายหวาดกลัวการขึ้นเครื่องบิน

การเดินทางด้วยเครื่องบินได้รับการยอมรับว่ามีความปลอดภัยมากที่สุด แต่ปัจจุบันกลับพบปัญหา “เครื่องบินตกหลุมอากาศ” มากขึ้นเรื่อย ๆ สาเหตุหนึ่งเป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและอุณหภูมิโลกที่ร้อนขึ้น สภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น มีเมฆมาก เกิดพายุฝนตกหนัก หรือ มีลูกเห็บตก อาจต้องเผื่อใจไว้เลยว่าจะต้องเจอกับ “หลุมอากาศ” ระหว่างเดินทางได้ หรือแม้แต่ในวันที่ท้องฟ้าแจ่มใส และปลอดโปร่ง ก็สามารถพบเจอกับหลุมอากาศได้เช่นเดียวกัน

โดยปกติแล้วเวลาเครื่องบินแล่นจากพื้นเพื่อขึ้นไปบินอยู่บนอากาศนั้น ต้องอาศัยแรงยกจากอากาศที่เคลื่อนที่ผ่านปีกเครื่องบิน ซึ่งมวลอากาศดังกล่าวจะมีความหนาแน่นเท่ากัน และเคลื่อนที่ไปอย่างสม่ำเสมอพร้อมกัน แต่ถ้าเครื่องบินต้องบินผ่านบริเวณที่มีความหนาแน่นของอากาศแตกต่างกันมาก จะส่งผลให้อากาศบริเวณดังกล่าวมีลักษณะคล้ายคลื่น และทำให้เกิดแรงยกแบบผิดปกติตามมา ส่งผลให้เครื่องบินสั่นในระดับเล็กน้อย ไปจนถึงสั่นระดับรุนแรง

หลุมอากาศหลีกเลี่ยงได้ไหม เกิดจากปัญหาที่เครื่องบินหรือไม่ ?

อนาลโย กอสกุล ผู้เชี่ยวชาญด้านการบินจาก Thaiarmedforce.com กล่าวว่า ถึงแม้จะมีเรดาร์ที่ตรวจสอบสภาพอากาศได้ แต่ยังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถตรวจจับหลุมอากาศได้ ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่คาดการณ์ล่วงหน้าไม่ได้ อย่างสถานการณ์ล่าสุดนั้น เมื่อดูข้อมูลจาก Flightradar24 พบว่านักบินตัดสินใจได้ดีในการเปลี่ยนเส้นทางและนำเครื่องบินลงจอดอย่างรวดเร็ว ซึ่งถือว่ารับมือได้ดี

สำหรับอุบัติเหตุครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับตัวการทำงานของเครื่องบิน Boeing 777-300ER เพราะไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินรุ่นไหนทั้งของ Boeing หรือ Airbus เมื่อเจอสภาพอากาศแปรปรวน ก็มีโอกาสตกหลุมอากาศรุนแรงได้ทั้งสิ้น ถ้ามองกลับกัน การตกหลุมอากาศรุนแรงเช่นนี้ แต่ยังนำเครื่องลงจอดได้อย่างปลอดภัย ก็สะท้อนถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของเครื่องบินรุ่นนี้ได้เช่นกัน ดังนั้นทางที่ดีที่สุดคือปฏิบัติตามกฏตลอดเวลา แม้ว่าสัญญาณเตือนจะดับลงก็ตาม เพื่อความปลอดภัย

เพราะเหตุใด ทำไมเครื่องบินจึงตกหลุมอากาศ

Recommend